วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไทยเนื้อหอม!! สิงโตคำรามสนลับแข้ง



"สิงโตคำราม" อังกฤษ กำลังพิจารณาว่าจะบุกมาลับแข้งทีมชาติไทยหรือไม่ เพื่อซื้อใจแลกกับเสียงโหวตให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่จะมีขึ้นในปี 2018
แอนดี้ แอนสัน หัวหน้าฝ่ายในการยื่นขอเป็นเจ้าภาพศึกฟุตบอลโลกประจำปี 2018 ของอังกฤษ ออกมายอมรับว่าตอนนี้ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ กำลังพิจารณาส่งแข้ง "สิงโตคำราม" มาอุ่นเครื่องแดนสยาม ก่อนลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้ ในปี 2010 จากคำเชื้อเชิญของ ปีเตอร์ รีด กุนซือทีมชาติไทย


"เรากำลังพยายามในการหาวันที่อังกฤษจะมาเตะที่ไทย แต่ในท้ายที่สุดแล้วคงเป็นการตัดสินใจของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เขาเป็นหนึ่งในคนตัดสินใจว่าอังกฤษจะอุ่นเครื่องกับทีมใดบ้าง แต่ผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องเยี่ยมไปเลยหากเราได้มาอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย" แอนสัน กล่าว

สุรินทร์ เปิดสโมสรเป็นทางการ-ฮือฮา!!เซ็น ถั่วแระ เฝ้าเสา

จ.สุรินทร์ เปิดสโมสรฟุตบอล สุรินทร์ เอฟซี อย่างเป็นทางการ และดึงดาราตลกชื่อดัง "ถั่วแระ เชิญยิ้ม" มาเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู
นายวิเชียร ชวลิต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดตัวสโมสรสุรินทร์เอฟซี ทีมอันดับ 8 ศึกฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งเปิดตัวนักเตะใหม่ 2 คน คือ ทรงกรด แก้วสิทธิ์ ตำแหน่งกองหน้า และศรสุธา กลั่นมาลี หรือถั่วแระ เชิญยิ้ม ตำแหน่งผู้รักษาประตู
ซึ่งหลังเปิดตัวสโมสรอย่างเป็นทางการ สุรินทร์ เอฟซี ลงสนามต้อนรับการมาเยือนของทีมสโมสรนครราชสีมา เอฟซี ทีมนำของตารางฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น ก่อนจะจบเกม 90 นาที โดยที่ นครราชสีมา เอฟซี บุกมาเอาชนะ สุรินทร์ เอฟซี ไปได้อย่างหวุดหวิด 1-0 ประตู โดยมีแฟนฟุตบอลเข้ามาเชียร์เป็น
จำนวนมากเครดิต : สำนักข่าวไทย

จับติ้วไทยFAรอบ3 กล๊าสฟัดเมืองทอง, นาวีรับมือท่าเรือ


ผลการแบ่งสายฟุตบอล "มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2009" รอบ 3 โดยมีดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทพรีเมียร์ลีกเป็นประธานในการจับสลาก และ บพิธ โกมลกิส ผจก.มูลนิธิไทยคมร่วมเป็นสักขีพยาน ซึงผลปรากฎว่ามีทีมจากไทยพรีเมียร์ลีกต้องห้ำหั่นกันหลายคู่แต่ไฮไลท์อยู่ที่บางกอกกล๊าส เอฟซี รองจ่าฝูงไทยพรีเมียร์ลีกมีคิวเปิดบ้านรับมือ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ไทยพรีเมียร์ลีก
โดยกติกาในรอบนี้ก็ยังคงเหมือนเดิมหากเสมอกันในเวลาปกติจะต่อเวลาพิเศษครึ่งละ 15 นาทีหากยังหาผู้ชนะไม่ได้ก็จะดวลจุดโทษทันที รวมทั้งค่าผ่านประตูที่เจ้าบ้านจะยังได้ส่วนแบ่ง 70 เปอร์เซ็นต์และทีมเยือนได้ 30 เปอร์เซ็นต์
พุธที่ 29 ก.ค.- ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร พบ ปตท. เวลา 15.30 น. ที่สนามกีฬากลาง จ.สมุทรสงคราม- ราชนาวี-ระยอง พบ การท่าเรือไทย เอฟซี เวลา 17.00 น. ที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง- นครปฐม เอฟซี พบ ศรีราชา เอฟซี เวลา 17.00 น. ที่สนามม.เกษตรฯ กำแพงแสน - นครราชสีมา พบ ศุลกากร เวลา 18.00 น. ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
พุธที่ 5 ส.ค.- โอสถสภา เอ็ม150 พบ ส.บางกอกกล๊าส เวลา 15.30 น. ที่สนามธนารมณ์ - จันทบุรี พบ กรุงเทพคริสเตียน เวลา 16.00 น. ที่สนามกีฬากลาง จ.จันทบุรี- เพื่อนตำรวจ พบ จุฬาฯ ยูไนเต็ด เวลา 16.00 น. ที่สนามกีฬาคลองจั่น- ขอนแก่น พบ สมุทรสงคราม เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬากลาง จ.ขอนแก่น
พุธที่ 19 ส.ค.- บีอีซี เทโรศาสน พบ สงขลา เวลา 15.30 น. ที่สนามบีอีซี เทโรศาสน- รัตนบัณฑิต พบ สมาคมกีฬากรุงเก่า เวลา 16.00 น. ที่สนามม.รัตนบัณฑิต- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พบ นครสวรรค์ เวลา 17.00 น. ที่สนามกีฬากลาง จ.อยุธยา- บางกอกกล๊าส เอฟซี พบ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เวลา 17.00 น. ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง6
พุธที่ 26 ส.ค.- ส.ศิษย์เก่า ม.วงชวลิตกุล พบ พัทยา ยูไนเต็ด เวลา 16.00 น. ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา- ศรีสะเกษ พบ สุราษฎร์ธานี เวลา 17.00 น. ที่สนามกีฬากลาง จ.ศรีสะเกษ- ทีโอที เอฟซี พบ แบ็งคอก ยูไนเต็ด เวลา 17.00 น. ที่สนามธันเดอร์โดม เมืองทอง- รร.เมืองพัทยา 8 พบ ชลบุรี เอฟซี เวลา 18.00 น. ที่สนามเทศบาลตำบอลหนองปรือ
เครดิต : siamsport

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นครปฐม เปิดตัว 4แข้งใหม่อุ่นอัดบางกอกกล๊าส 2-0


ความเคลื่อนไหวของการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ที่เตรียมกลับมาโม่แข้งเลกสองในช่วงปลายเดือนนี้ ล่าสุด นครปฐม เอฟซี ทีมอันดับ 11 ของลีก จัดการเสริมทัพเพื่อสู้ศึกเลกสอง ด้วยการคว้าตัว เอ็มบัลล่า เอสซอมบ้า กองกลางชาวแคเมอรูน ดีกรีทีมชาติ เยาวชน 19 ปี มาร่วมทีม โดยดาวเตะรายนี้ เคยเล่นฟุตบอลในบ้านเรามาแล้วกับสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ก่อนที่เคยมีข่าวเดินทางไปร่วมฝึกซ้อมกับ สโมสรฟุตบอลปัตตานี เอฟซี แต่ท้ายที่สุดกลับย้ายมาร่วมทีม นครปฐม
นอกจากในรายของดาวเตะผิวสีแล้ว ทีมนักสู้เมืองเจดีย์ใหญ่ ยังได้ จารุพงศ์ สังข์พงษ์ ดาวเตะมากประสบการณ์ที่เล่นมากับหลายสโมสรในไทยลีก และ ครรชิต ปทุมสูตร กับ สิงขร มังคุด สองกองกลางตัวเก่งจากสโมสรสุพรรณบุรี
โดยนักเตะทั้งสี่คน ลงประเดิมสนามในเกมอุ่นเครื่องกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่สนาม ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน วันอาทิตย์ที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยรายได้ทั้งหมดในนัดนี้จะมอบให้กับ 2 นักเตะนครปฐม รายแรกเป็นอดีตนักเตะของทีมคือ วีรยุทธ คำพร (บาดเจ็บเอ็นหัวเข่าซ้ายขาด) ซึ่งก็ยังพักรักษาตัวไปนานร่วมปีกว่า และ พานุวัฒน์ ยิ้มสง่า (บาดเจ็บเอ็นหัวเข่าข้างซ้าย แต่ยังพอลงเล่นได้) โดยรายหลังจะต้องรอให้แพทย์ตรวจดูอาการในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้าอีกครั้งว่า จะต้องขึ้นเขียงผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป

ซึ่งเกมนี้ บางกอกกล๊าส ของ “โค้ชง้วน” สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ หนีบผู้เล่นตัวหลักมาเยือน พร้อมกับลองนักเตะใหม่ๆหลายตำแหน่ง ก่อนชัยชนะในเกมนี้จะตกเป็นของเจ้าบ้าน 2-0 เริ่มจากนาทีที่ 5 จากจังหวะที่ สิงขร มังคุด ดาวเตะตัวใหม่ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่จะผ่านเข้ากลางมาให้ "บอล" เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ กองหน้าร่างเล็กที่วิ่งเข้ามาชาร์จด้วยขวาหน้าปากประตูเข้าไปง่ายๆให้ทีมเจ้าถิ่น นครปฐม เอฟซี ออกนำเร็วไปก่อน 1-0 ก่อนจะมาประสบความสำเร็จอีกครั้งจนได้ ในนาทีที่ 53 เมื่อได้จังหวะโต้กลับเร็ว จารุพงษ์ สังข์พงษ์ มิดฟิลด์ตัวใหม่อีกรายตักบอลเร็วเข้ามากลางสนามให้กับ เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ที่แต่งก่อนหนึ่งจังหวะก่อนที่จะตัดสินใจยิงด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงหนีมือผู้รักษาประตูบางกอกกล๊าส เสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ส่งผลให้เจ้าถิ่นชนะไปในบั้นปลาย 2-0

เอ็มบัลล่า เอสซอมบ้า กองกลางชาวแคเมอรูน ดีกรีทีมชาติ เยาวชน 19 ปี



จารุพงศ์ สังข์พงษ์ กองกลางตัวรับจาก ลพบุรี เอฟซี

ครรชิต ปทุมสูตร ดาวเตะตัวเก่งจากสโมสรสุพรรณบุรี




เครดิต : siamsport


ขอบคุณภาพจาก : NAKHONPATHOM the ROVERS

ปีเตอร์ แลง "ผมขอเป็นส่วนหนึ่งความสำเร็จทีมชาติไทย"

ปีเตอร์ แลง (PETER LAENG)
ประวัติโดยย่อ ส่วนสูง 180 ซม. น้ำหนัก 75 กก. สถานภาพ : โสด เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2529 ที่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สัญชาติ : ไทย และ สวิส (แม่เป็นคนไทย และพ่อเป็นคนสวิส) ภาษา : เยอรมัน ไทย อังกฤษ เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ตำแหน่ง : กองหลัง, กองกลาง(ตัวรับ)


สโมสรในปัจจุบัน เอฟซี ชาฟฟ์เฮาเซ่น (FC Schaffhausen) ตั้งแต่ปี 2550 / 2007

สโมสรในอดีต เอฟซี บาเซิ่ล(เยาวชน) (FC Basel) สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ 2548-2550 / 2005-2007, เอสซี ไฟร์บวร์ก(อะคาเดมี่) (SC Freiburg) เยอรมัน ตั้งแต่ 2547-2548 / 2004-2005, เอฟซี วินเทอร์เธอร์ (FC Winterthur) สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ 2544-2546 / 2001-2003

เคยติดทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ชุด เยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี จนถึง ชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 21ปี ช่วงเวลา 7 ปี ลงเล่น 55 เกม ทำได้ 6 ประตู

เกียรติยศ : ลงเล่นในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเป็นฤดูกาลที่ 2 แล้ว เคยลงเล่นให้กับ เอฟซี บาเซิ่ล ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพถึง 7 เกม เคยชนะเลิศฟุตบอลระดับเยาวชนกับทีมเอฟซี บาเซิ่ล ในปี2550/2007 เคยลงเล่น อินเตอร์เนชั่นแนล บลูสตาร์ คัพ
ความเป็นมา

ปี 2529/1986 ว่ากันตั้งแต่ต้นเลยนะครับ ผมเกิดที่ ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2529 คุณแม่ของผม (คุณวิไลวรรณ แลง) เกิดที่จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทยและได้ย้ายไปสวิตในปี 2529 ส่วนคุณพ่อของผม (คุณวอลเทอร์ แลง) เกิดที่ อูตเซนสตอร์ฟ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้เดินทางไปทั่วโลกด้วยหน้าที่การงาน และก็แน่นอนได้มาเมืองไทยด้วย ผมมีพี่สาวสองคนและพี่ชายสองคนครับ คือ คุณจรีพร คุณมณชญา คุณณัฐพล และคุณขวัญกมล ทุกคนเกิดที่ จ.นครราชสีมา และไปเติบโตที่ สวิตเซอร์แลนด์ครับ ผมบอกได้เลยว่า ครอบครัวของผมได้ช่วยให้ผมได้แสดงตัวตนของผมออกมาทางกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่ต้น และยังคงสนับสนุนผมอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากีฬาฟุตบอลจะเป็นแกนหลักในชีวิตของผม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือ ครอบครัวของผมครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว และพี่ชาย รวมถึงทั้งหลานชาย หลานสาวทุกคน เพราะถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากพวกเขาเหล่านั้นทั้งในช่วงเวลาที่ดีและช่วงที่เลวร้าย ผมคงจะไม่สามารถที่จะเดินบนเส้นทางนักเตะอาชีพได้อย่างแน่นอน ผมจะไม่เคยลืมเลยว่าผมนั้นมาจากไหน และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมผมถึงวางใจให้ครอบครัวของผมเป็นผู้จัดการเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตนักเตะอาชีพของผม


ปี 2535/1992 ไม่มีใครเคยบอกให้ผมเป็นนักฟุตบอลอาชีพหรอกครับ แต่เมื่อผมเริ่มเล่นฟุตบอลที่โรงเรียนกับเพื่อน ๆ ตอนอายุได้ 6 ขวบ ผมรู้เลยว่า ฟุตบอลนี่แหละคือกีฬาของผม

ปี 2543/2000 พอผมอายุได้ 14 ปี ผมก็ย้ายมาสู่ เอฟซี วินเทอร์เธอร์ สโมสรที่มีชื่อเสียงเรื่องการฝึกนักเตะรุ่นเยาว์ ในที่สุด ผมได้เลือกที่จะเล่นเป็นเซนเตอร์ครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะนักเตะที่ผมชื่นชอบคือ มาร์กเซล เดซาลญี่ แล้วก็ผมชอบที่จะเล่นเป็นกองหลังที่จะคอยป้องกันประตู แล้วทีมชาติสวิส เยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม หลังจากที่ผมได้เล่นในลีกระดับยุวชนมาหลายปี



ปี 2547/2004 ปีนี้ฝันอย่างหนึ่งของผมก็เป็นจริงครับ ศูนย์ฝึกเยาวชน(อะคาเดมี่)ชื่อดังก้องโลกของ ไฟร์บวร์ก ที่สงวนไว้เฉพาะสำหรับนักเตะเยาวชนที่มีความสามารถและมีศักยภาพสูง ได้ชวน ผมให้ไปเข้าโครงการพร้อมกับยื่นสัญญาให้ผม 2 ปี และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ผมต้องห่างครอบครัว ห่างบ้าน ไปอยู่ต่างประเทศ และเข้าสู่โลกของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ที่อะคาเดมี่แห่งนี้
เขาเปิดโอกาสให้นักกีฬารุ่นเยาว์ที่มีความฝันและความมุ่งมั่นได้พัฒนาทักษะ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเล่นเป็นทีม การใช้ชีวิตอย่างถูกสุขลักษณะ และเหนือสิ่งอื่นใด เขาสอนให้ทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญที่ทุก ๆ คนจะต้องมีความสนุกสนานทุกครั้งที่เหยียบย่างลงสู่สนาม ที่ไฟร์บวร์ก ผมได้พบกับผู้เล่นจากทั่วโลก ผมได้เรียนและ ได้ใช้ชีวิตร่วมกันกับพวกเขาในอะคาเดมี่ และแน่นอนผมได้เล่นฟุตบอลและได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับแท็คติค ผมคงต้องบอกว่า ไฟร์บวร์กเป็นประสบการณ์ที่สำคัญในชีวิตของผมจริง ๆ

ปี 2548/2005 หลังจาก 2 ปีที่ ไฟร์บวร์ก ผมก็ย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของ เอฟซี บาเซิ่ล ในสวิตเซอร์แลนด์ โดยตั้งเป้าว่าจะเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของบาเซิ่ลที่ถือเป็นทีมที่มีชื่อเสียงที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์ ผมมีความทรงจำดี ๆ มากมายกับช่วงเวลานี้ และแน่นอน กับโค้ชของผมคือ ไฮน์ เฮอร์มานน์ อดีตผู้เล่นทีมชาติสวิส และยังคงเป็นขวัญใจของแฟนบอลจนถึงทุกวันนี้
ปี 2550/2007 พวกเราได้ถ้วยชนะเลิศฟุตบอลในระดับลีกเยาวชน โดยทิ้งรองแชมป์อย่างขาดลอย และในตอนนั้น ผมก็ยุติการเล่นทีมชาติอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อครบวันเกิดปีที่ 22 ของผม โดยสรุป ผมติดทีมชาติเยาวชนชุดต่าง ๆ รวม 55 ครั้ง ทำได้ประมาณ 6 ประตู ผมได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อไปชิงแชมป์ยุโรปหลาย ๆ ครั้งเลยทีเดียว



ปี 2550/2007 ตอนนั้น ผู้คนในวงการฟุตบอลก็จับตาดูผมอยู่ครับ โดยเฉพาะ เอฟซี ชาฟฟ์เฮาเซ่น ก็ได้แสดงความสนใจในทักษะฟุตบอลของผม ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะครับว่า อันที่จริงผมมองหาสโมสรในดิวิชั่น 1 (สูงสุด) อยู่ตะหาก ชาฟฟ์เฮาเซ่น ก็เล่นดิวิชั่น 1 อยู่หลายปีครับ ก่อนที่จะถูกลดชั้นไปในปี 2007
ในที่สุด ผมและครอบครัวของผมตัดสินใจที่จะไปร่วมสโมสร ชาฟฟ์เฮาเซ่น แม้ว่าจะมีข้อเสนอมาจากทีมอื่น ๆ ในดิวิชั่น 1 ก็ตาม ทำไมหรือครับ เพราะ ชาฟฟ์เฮาเซ่น มีแฟนบอลที่ยอดเยี่ยมมากในภูมิภาคนั้น และผู้คนก็เชียร์ทีมแบบเหนียวแน่นจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นสโมสรก็มีแผนที่จะกลับขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 1 ด้วยทีมพลังหนุ่มที่เต็มไปด้วยความสามารถ แน่นอนครับ นี่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และผมก็มีเวลาที่จะค่อย ๆ เติบโตเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อที่จะรับมือกับความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า และผมก็พร้อมแล้วด้วยแรงจูงใจที่จะก้าวต่อไป

จากใจ ปีเตอร์ แลง สำหรับ ประเทศไทย และทีมชาติไทย แม่ของผมเป็นคนไทย และครอบครัวของผมครึ่งหนึ่งเป็นคนไทย ผมหวังว่าจะได้รับเกียรติและมีโอกาสได้รับใช้ชาติโดยเล่นให้กับทีมชาติไทย ผมรู้สึกถึงความผูกพันธ์กับเมืองไทย วัฒนธรรมไทย และ การเป็นอยู่ นอกเหนือจากประวัติในระดับชาติและนานาชาติที่ได้กล่าวมาข้างต้น ผมเป็นผู้เล่นที่เล่นเป็นทีม และพร้อมที่จะอุทิศตนเพื่อศักดิ์ศรีของทีมชาติไทย หากได้มีโอกาสที่จะเล่นให้กับทีมชาติไทย ผมก็จะเล่นอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ทุกคนผิดหวังในตัวผม ผม และ ครอบครัว รู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณที่ได้รับความสนใจจากทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะคุณธารา พฤกษ์ชะอุ่ม (ผู้ประสานงานทีมชาติไทย) และโค้ช คือคุณปีเตอร์ รีด และคุณสตีฟ ดาร์บี้ และสำหรับจดหมายเชิญให้มาร่วมทีมชาติไทยในเดือนมิถุนายนเพื่อการทดสอบฝีเท้า ผมหวังว่าจะนำสิ่งดี ๆ และเต็มใจที่จะสู้สุดความสามารถ เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของทีมชาติไทยในอนาคต
เครดิต : สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เมืองทองเบิ้ลแข้งใหม่!! คัมภีร์-แข้งพม่าลุยเลก 2


สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี คัมภีร์ ปิ่นฑะกูล อดีตนักเตะยอดเยี่ยมไทยลีก 7 ธ.กรุงเทพ ได้ตกลงจรดปากกาเซ็นเป็นนักเตะทีม "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อย โดยสโมสรได้ออกมาระบุสัญญาว่าจะเป็นการเซ็นสัญญากันแบบปีต่อปี ไม่มีค่าตัว จากทีมสุพรรณบุรี ทีมดิวิชั่น 1 ส่วนเรื่องเงินเดือนนั้น ยังไม่มีการเปิดเผย แต่คาดว่าจะได้มากกว่าที่เดิม ส่วนขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสภาพร่างกายตัวนักเตะ ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
ทางด้าน "โค้ชแต็ก" ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการคว้าตัวนักเตะรายที่ 2 ต่อจาก Yan Paing นักเตะทีมชาติพม่า ก็ได้ออกมาให้ความเห็นถึงตัวนักเตะใหม่ว่า "ถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีมากสำหรับทีมเรา เพราะตัวนักเตะเองก็เป็นคนที่มีทักษะ ความสามารถดี บวกกับบรรยากาศของทีมที่ผมต้องการให้มีการทดแทนตำแหน่งรวมทั้งเพิ่มการแข่งขันกันในทีมให้มากขึ้น ก็หวังว่าเจ้าตัวจะเข้ากับทีมได้เร็ว และทำผลงานได้ดีกับสโมสร"
ส่วน คัมภีร์ นักเตะใหม่เอี่ยมของเมืองทองฯ ออกมาแสดงรู้สึกถึงทีมใหม่ว่า "เป็นอะไรที่ตื่นเต้นและก็ดีใจมาก ก็อย่างที่ทราบว่าเส้นทางค้าแข้งของผมที่มีขึ้นมีลง ก็ไม่อยากเอ่ยถึงมันอีก อยากจะเริ่มต้นใหม่ ทำผลงานให้ดีกับเมืองทองฯ ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ปีนี้ให้ได้ เพราะทีมนี้เป็นทีมใหญ่ที่มีอนาคตและแฟนบอลที่ดี ก็ขอให้เอาใจช่วยด้วยละกันครับ"
สำหรับประวัติ คำภีร์ ปิ่นฑะกูล เกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวทำเกม ถือเป็นนักเตะพรสวรรค์อีกคนหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผลผลิตมาจากโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา คำภีร์ โด่งดังมาจากทีมโปรลีกของจังหวัดสุพรรณฯ ยุคสามเสือสุพรรณ มานิตย์ เบคเค่นบาวร์ และคำภีร์ พาทีมสุพรรณคว้าแชมป์โปรลีกตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาลพร้อมผลงานการยิงประตูถล่มทลาย ครองทั้งแชมป์ ทั้งดาวซัลโว หลังจากนั้นคำภีร์ย้ายเข้าสู่ทีมธนาคารกรุงเทพ เพียงปีแรกของการก้าวสู่ลีกสูงสุดของประเทศ คำภีร์ก็คว้าตำแหน่งสูงสุดของไทยลีกคือ ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมไทยลีกพร้อมกับก้าวขึ้นติดทีมชาติไทยในยุคนั้น
ด้วยผลงานอันโดดเด่นของคำภีร์ เข้าตาทีมจากลีกสิงคโปร ย้ายเข้าสู่เอสลีก และในปีนั้นคำภีร์ก็ติด 1 ใน 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมตลอดฤดูกาลของเอสลีกก่อนจะย้ายกลับไทยลีก กับทีม บีอีซีเทโร และ ธ.กรุงไทย และท้ายที่สุดก็ย้ายกลับมาเล่นให้ทีมสุพรรณ บ้านเกิดในปัจจุบันในฐานะกัปตันทีม ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ในที่สุดหลังจากประสบปัญหากับทีมเมืองขุนแผนตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้จากปัญหาเรื่องประท้วงเรียกร้องเงินเดือนที่ทางสโมสรยังไม่จ่ายให้กับนักเตะเป็นเวลา 4 เดือน
เครดิต : siamsport