
การแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการของทีม “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ พีอีเอ เมื่อวันพุธที่ 3 ก.พ.53 ที่สนามไอโมบาย สเตเดี้ยม จ.บุรีรัมย์ สนามเหย้าของทีมที่จะใช้สู้ศึกไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งในงานนี้ทางทีมได้เหมาเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียบินตรง จากกรุงเทพฯ ถึง บุรีรัมย์ ด้วยเที่ยวบิน FD 4820 มีผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่รวมแล้วกว่า 120 ชีวิต
การเปิดตัวได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในเวลา 13.30 น. ซึ่งนำโดยนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ พีอีเอ รวมถึงบรรดาสปอนเซอร์คือ ช้าง ไอโมบาย คิง เพาเวอร์ แอร์เอเชีย ฟิลลิปส์ เป็นเกียรติเปิดตัวทีมในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าแดดจะร้อนอบอ้าวแต่ก็มีแฟนคลับเข้ามาร่วมงานอยางเนืองแน่น เริ่มต้นพิธีด้วยการนำวงโยธวาทิตเข้าสู่สนามตามด้วยนักฟุตบอลของทีมออกมาแนะนำตัวต่อแฟนๆของทีม ซึ่งเรียกเสียงปรบมือจากแฟนๆรอบสนาม และตัวแทนของนักฟุตบอลก็ขึ้นมอบลูกฟุตบอลให้แก่บรรดาผู้สนับสนุนทีม
นาย เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรได้กล่าวภายในงานแถลงข่าวว่า “วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล จ.บุรีรัมย์ ผมขอประกาศว่านับจากวันนี้เป็นต้นไป จ.บุรีรัมย์จะเป็นพันธมิตรแบบถาวรกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แต่เดิมการไฟฟ้าฯ เคยคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกมาแล้วหนึ่งครั้งแต่จากนี้ไปผมในฐานะประธาน สโมสรรวมถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชขอพาทีม บุรีรัมย์ พีอีเอ คว้าแชมป์แบบนับไม่ถ้วนให้ได้”
ส่วนงบประมาณในการทำทีมนั้น นายเนวินกล่าวว่า “งบประมาณเฉพาะการทำทีมเบื้องต้น 50 ล้านบาทไม่เกี่ยวกับการสร้างสนามและที่พักรวมถึงสนามซ้อมแต่อย่างใด ในซีซั่นนี้เบื้องต้นหวังติดหนึ่งในสี่ทีมที่มีลุ้นแชมป์ให้ได้ อย่างไรก็ดีผมยังมั่นใจลึกๆว่าทีมจะสามารถเบียดลุ้นแชมป์ได้ เพราะทีมเราได้เปรียบทีมอื่นที่ความมีระเบียบรวมถึงความฟิต เบื้องต้นออกกฏไว้ว่าหลังแข่งเสร็จนักเตะสามารถกลับบ้านได้วันเดียวหลังจาก นั้นต้องกลับเข้าค่ายฝึกซ้อมทันที” นอกจากนี้ ยังได้ “เวิร์ลแก๊ส” เป็นผู้สนับสนุนอีกราย
“สำหรับ เกมเยือนนั้นถือว่าเราเป็นทีมแรกที่จะมีแคมป์เก็บตัวและสนามซ้อมเป็นของตน เอง โดยทางคิงเพาเวอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนได้ดำเนินการให้ รวมทั้งยังเป็นทีมแรกในไทยพรีเมียร์ลีกที่จะมีเครื่องบินส่วนตัวสำหรับเกมไป เยือนซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากแอร์เอเชีย ผมอยากฝากให้ทุกทีมหันมาพัฒนาทีมของตนเองอย่างเป็นจริงเป็นจังเหมือนทีมเรา เพื่อให้วงการฟุตบอลพัฒนา”
ขณะเดียวกัน ทีมปราสาทสายฟ้าได้เตรียมสร้างสนามเหย้าแห่งใหม่ซึ่งจะสร้างเสร็จ ภายในสามปีนับจากนี้ เวลานี้ได้ทำการถมที่ดินเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ดินนั้นเป็นของนายเนวินเอง ซึ่งสนามแห่งใหม่นี้จะไม่มีลู่วิ่งและมีความจุถึง 24,000 ที่นั่ง ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 100 ล้านบาท และจะตั้งชื่อสนามว่า “ธันเดอร์ คาสเซิ่ล” ส่วนสนามไอโมบาย สเตเดี้ยม ที่ใช้เป็นรังเหย้าในซีซั่นนี้นายเนวินกล่าวว่า ทีมจะจ่ายค่าเช่าให้กับ กกท. บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเจ้าของสนามนัดละสามแสนบาท รวมถึงค่าผ่านประตูอีก 10 เปอร์เซนต์ อีกด้วย
นาย เนวิน ยังได้กล่าวถึงแฟนบอลที่อยู่ไกลด้วยว่า “สำหรับผู้ที่สมัครเป็นแฟนคลับของทีมจะได้รับสิทธิพิเศษในการเดินทางมา เชียร์ทีม บุรีรัมย์ พีอีเอ ที่ จ.บุรีรัมย์ โดยจ่ายเงินแค่ 2,500 บาท สามารถนั่งเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ มีรถรับส่งถภึงสนามรวมถึงอาหารกลางวัน ส่วนสินค้าที่ระลึกของทีมจะมีการนำขึ้นไปจำหน่ายบนเครื่องบินของสายการบิน แอร์เอเชีย “
ผมอยากฝากไปยัง บ.ไทยพรีเมียรืลีกในเรื่องของการแข่งขันลีกเยาวชน โดยแต่ละทีมก็นำเด็กเยาวชนที่เป็นเด็กไทยมาแข่งขันกันทุกสัปดาห์เพื่อให้พวก เขาเหล่านี้พัฒนาฝีเท้ามากยิ่งขึ้น เพราะในปัจจุบันนักเตะไทยโตไม่ทันใช้งานจึงมีแต่นักเตะชาวต่างชาติเต็มไปหมด หากลีกเยาวชนเกิดพวกเขาเหล่านี้ก็จะได้พัฒนาเพื่อก้าวมาเป็นนักเตะในทีมชุด ใหญ่หรืออาจเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยในอนาคต” นายเนวินทิ้งท้าย
นอกจากนี้ บิ๊กบุรีรัมย์-กฟภ.ยังได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการดึงแข้งดังมาร่วมทีม ยืนยันในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่ตนจะทาบทาม แฟร้งค์ แลมพาร์ด หรือ จอห์น เทอร์รี่ มาร่วมทีม ในฐานะที่ตนเป็นแฟนตัวยงของทีม เชลซี
ส่วนกรณีของ กาเบรียล บาติสตูต้า อดีตกองหน้าชื่อดังทีมชาติ อาร์เจนติน่า นายเนวิน เผยว่าขั้นตอนต่างๆ อยู่ระหว่างการประสานงาน โดยที่ทาง “บาติโกล์” พร้อมรับข้อเสนอ เข้ามาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาสโมสรให้ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้