"เดอะ กล๊าส แรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี สุดเจ๋งบุกรังสมาคมกีฬากรุงเก่า ทีมระดับถ้วย ข ก่อนปูพรมไล่ถล่มแหลก 6-0 ตบเท้าเข้าเล่นรอบห้าอีกทีม โดยจะมีการจับสลากประกบคู่ ในวันศุกร์ที่ 25 ก.ย. นี้ ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ
สมาคมกีฬากรุงเก่า 0 - บางกอกกล๊าส 6 การแข่งขันฟุตบอลมูลนิธิไทยคมเอฟ เอ คัพ รอบ 4 ที่สนามกีฬากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าบ้าน "จอมเซอร์ไพส์" สมาคมกีฬากรุงเก่า ตัวแทนจากถ้วย ข ที่ผ่านรอบสามมาด้วยการบุกไปชนะ รัตนบัณฑิต ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 หลังเสมอในเวลาปกติ 1-1 เปิดสนามพบกับ "แรบบิท" บางกอกกล๊าส ทีมจาก ไทยลีก ที่ชนะ เมืองทองฯ ทีมจากไทยลีกด้วยกัน 1-0 ในรอบสาม
เกมนี้เจ้าถิ่นไม่มี เลิศชาย อิสราสุวิภากร ดาวเตะตัวเก่งที่ติดภารกิจกับทีมฟุตซอลชาติไทย แต่ยังมี โจ้ เนื่องเกิด, อนันต์ ปานทอง, พงษ์ศักดิ์ คงแก้ว เป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง ขณะที่ "แรบบิท"ส่งตัวจริงและสำรองสลับกันลงสนามหลายคน นำโดย อนาวิน จูจีน, รุ่งโรจน์ สว่างศรี, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์,โคเน่ คาสซิม, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ท่ามกลางแฟนบอลของทั้งสองทีมที่แห่เข้ามาชมกันอย่างหนาตา โดยเกมนี้ สุวรรณลภ ภูวบัณฑิตสิน นายกสมาคมกีฬากรุงเก่า อัดฉีดให้นักเตะ กรุงเก่า ก่อนแข่งเป็นขวัญถุง 30,000 บาท
เปิดฉากมาแค่ 2 นาที เจ้าถิ่นมีลุ้นได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว เมื่อสองนักเตะจอมเก๋าอย่าง พงษ์ศักดิ์ คงแก้ว จ่ายทะลุช่องให้ อนันต์ ปานทอง หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษด้านซ้ายคนเดียวโล่งๆ แต่กลับซัดเข้าข้างตาข่ายไปอย่างน่าเสียดาย ชวดได้ประตูขึ้นนำสุดๆ
หลังจากนั้นเป็น ส.กรุงเก่า ที่ดูคึกคักกว่า เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกใส่ บางกอกกล๊าสฯ แบบไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีเครื่องหมายไทยลีก แต่ น.10 ก็เกือบโดนทีมเยือนเล่นงานเหมือนกัน เมื่อ ศุภชัย คมศิลป์ เปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งขวาโค้งเข้าหาประตู และเป็น โคเน่ คาสซิม ที่ได้โขกเหน่งๆ ระยะแค่ 5 หลากลางประตู ทว่ากลับโหม่งออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ
น.18 เจ้าถิ่นดูหมดแรงไปซะดื้อๆ ทำให้ อนาวิน จูจีน ปีกตัวจี๊ดของ “แรบบิท” ที่จังหวะนี้โยกตัวเองไปอยู่ทางด้านซ้าย ก่อนพาบอลตัดเข้ามาตรงกลางแล้วทำชิ่งกับ โคเน่ คาสซิม จังหวะเดียว ก่อนจะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย และ อนาวิน จัดการซัดด้วยอีซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งแสกหน้า บัญชา นุนารถ นายทวารเจ้าถิ่นตาข่ายแทบขาด ให้ บางกอกกล๊าสฯ นำ ส.กรุงเก่า 1-0 ท่ามกลางเสียงเฮจากแฟนบอลทีมเยือนที่ขนมากันเต็มคันรถ
หลังจากนั้น ส.กรุงเก่า ยังคงเล่นเกมบุกต่อไป และ น.31 ก็มาได้ลุ้นจากฟรีคิกของ อนันต์ ปานทอง บนเส้นกรอบเชตโทษกลางประตูพอดี แต่ดาวเตะจอมเก๋ารายนี้กลับปั่นไซส์โป้งด้วยเท้าขวาข้ามคานออกไปนิดเดียว เจ้าถิ่นยังคงคุมเกมได้ดีกว่า แม้จะเป็นฝ่ายโดนนำอยู่ก็ตาม แต่ทีมเยือนก็อาศัยการโต้กลับที่เฉียบคมและการชิ่งบอลจังหวะเดียวตามสไตล์ลุ้นประตูที่สอง แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดความแน่นอน
ก่อนหมดเวลา 2 นาที บางกอกล๊าสฯ ก็มาได้ประตูนำห่าง เมื่อ ศุภชัย คมศิลป์ ได้โอกาสยิงฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวาด้วยเท้าซ้าย บอลโค้งเข้าเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูไปอย่างสวยงาม หมดปัญญาที่ บัญชา นุนารถ นายทวาร ส.กรุงเก่า จะพุ่งเซฟไว้ทัน ให้"แรบบิท"นำ 2-0 และหมดครึ่งแรกที่สกอร์นี้
ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น และเริ่มมา 5 นาที เหมือนหนังคนละม้วน เมื่อ บางกอกกล๊าสฯ เป็นฝ่ายดาหน้าบุกชนิดไม่ให้เจ้าถิ่นตั้งตัว และมีโอกาสลุ้นทำประตูหลายครั้ง แต่ก็ยังขาดๆ เกินๆ ก่อนที่ น.56 ทีมเยือนจะมาได้ประตูนำโด่ง เมื่อคู่เซ็นเตอร์ของ ส.กรุงเก่า ยืนห่างกันเกินไป นันทวัฒน์ แทนโสภา เลยลงโทษด้วยการจ่ายทะลุช่องกลางให้ โคเน่ คาสซิม จับบอลก่อนจะซัดด้วยเท้าขวาแค่ 8 หลา บอลสวนตัว บัญชา นุนารถ เข้าประตูไปง่ายๆ ให้ บางกอกกล๊าสฯ นำห่าง 3-0
หลังจากนั้นทีมเยือนเริ่มทยอยเปลี่ยนตัวสำรองลงสนามเพื่อสัมผัสบรรยากาศ ทำให้เกมรุกดูเพลาๆ ลงไป เปิดโอกาสให้ ส.กรุงเก่า ได้สร้างสรรค์เกมบุกขึ้นมาลุ้นประตูบ้างและ น.70 กองเชียร์เจ้าถิ่นเกือบได้เฮบ้าง เมื่อ อนันต์ ปานทอง กัปตันจอมเก๋า ได้โอกาสตั้งป้อมซัดเต็มข้อประมาณ 25 หลา บอลพุ่งอย่างแรงก่อนไปชนเสาอย่างจัง พลาดโอกาสตีไข่แตกไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถัดมาอีกเพียง 3 นาที บางกอกกล๊าสฯ มาได้ประตูนำห่าง 4-0 เมื่อ วรรณพล ปุษปาคม ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงไป ตั้งป้อมซัดไกลประมาณ 25 หลากลางประตู บอลพุ่งตกพื้นหนึ่งจังหวะก่อนเข้าประตูไปอย่างสมบูรณ์แบบ
ก่อนที่ น.75 สถานการณ์ของเจ้าถิ่นย่ำแย่หนักเข้าไปอีก เมื่อ วัชรพงษ์ วิเชียรสาร แบ็กขวาตัวสำรองที่เปลี่ยนลงไป พุ่งเสียบ นันทวัฒน์ แทนโสภา ขณะที่กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษด้านซ้าย ทำให้ สุระ ศรีอาจ ผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในเกมนี้ไม่มีทางเลือกที่จะเป่าให้จุดโทษแก่ทีมเยือน และแจกใบแดงไล่ วัชรพงษ์ ออกจากสนามไป ก่อนที่ นันทวัฒน์ จะลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารลูกนี้เข้าซ้ายมือ บัญชา นุนารถ เข้าประตูไป ให้ บางกอกกล๊าสฯ นำห่าง 5-0
จากนั้นเจ้าถิ่นดูเสียกำลังใจ และ น.83 นันทวัฒน์ แทนโสภา กระชากบอลทะลุแหวกคู่เซ็นเตอร์ของ ส.กรุงเก่า ก่อนจะหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษถึงสามคน ก่อนจะจ่ายออกทางขวาไปให้ พลวัฒน์ วังฆะฮาด แบ็กขวาตัวเก่งที่เติมขึ้นมา จับบอลหนึ่งจังหวะและซัดเต็มข้อไม่เหลือซาก ให้ “แรบบิท” นำครึ่งโหล 6-0
ท้ายเกมพระพิรุณธ์เริ่มโปรยปรายลงมา ทำให้แข้ง บีจี ดูจะเน้นความชัวร์เป็นหลัก ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดยาวหมดเวลา ส.กรุงเก่า เปิดบ้านพ่ายให้กับ บางกอกกล๊าสฯ เละเทะ 0-6 ส่งผลให้ "แรบบิท" ผ่านเข้าสู่รอบที่ 5 ต่อไป ส่วน ส.กรุงเก่า เกมนี้ถือว่าชนะใจแฟนบอลเต็มๆ
คะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม
สมาคมกีฬากรุงเก่า : บัญชา นุนารถ 4.5, รัฐวุฒิ สุพัฒน์ธนกูล 5, วิเลศ เกลี้ยงแก้ว 5 (ปิยะพันธ์ วรรณนิยม -), สมชาย กลิ่นบัว 5, สุวิทย์ แจ้งธรรมมา 5 (วัชรพงษ์ วิเชียรสาร 4), ศักดา น้อยเมืองเปลือย 5 (วรชัย นาสูงเนิน -),สุรศักดิ์ อาจเอี่ยม 5, โจ้ เนื่องเกิด 5, พงษ์ศักดิ์ คงแก้ว 5.5, เชาวลิต นิลกรณ์ 5, อนันต์ ปานทอง 5
บางกอกล๊าสฯ : นราธิป พันธ์พร้อม 6, พลวัฒน์ วังฆะฮาด 7, ศุภชัย คมศิลป์ 7, ไกรเกียรติ เบียดตะคุ 6.5, รุ่งโรจน์ สว่างศรี 6.5, อนนท์ บุญสุโข 6 (วชิระ แสงศรี 6), โคเน่ คาสซิม 7 (มิเชล 6), อนาวิน จูจีน 7, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ 5.5 (วรรณพล ปุษปาคม 6), พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ 6, นันทวัฒน์ แทนโสภา 8
หลังเกม พ.ต.ท.ดร.วีระพล วงษ์สาตรสาย : วันนี้เด็กเราไม่ได้เป็นรองเลย ซึ่งมีโอกาสจะยิงขึ้นนำไปก่อนด้วย แต่ด้วยความที่เราไม่ได้รวมทีมกันเลย ทำให้ขาดความเฉียบคมไป ซึ่งการขาด เลิศชาย ถือว่ามีผลในเกมรุกของเรามาก แต่ยอมรับว่าวันนี้ บางกอกกลาสฯ เป็นทีมที่ดีกว่าจริงๆ ด้าน สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ : แรกๆ มันดูขัดไปนิดนึง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ทีมใหญ่เจอทีมเล็ก คือดูเหมือนจะง่ายแต่เราทำให้มันยากไปเอง ซึ่งรอบต่อไปอยากจะขอเจอทีมใหญ่ไปเลย
สำหรับการแข่งขันฟุตบอล”มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2009” รอบห้า หรือรอบ 8 ทีม จะมีการจับสลากประกบคู่ในวันศุกร์ ที่ 25 ก.ย.นี้ ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอล ฯ เวลา 14.00 น.
|