วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

โอสถฯงานเข้าไฟดับก่อนโซ้ย ฉลามชล 2-1


"พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 เกือบงานเข้าหลังไฟฟ้าในสนามดับ 27 นาทีก่อนกลับมาเตะกันใหม่พร้อมกับหยุดสถิติที่ไม่เคยเอาชนะ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี มาได้ 4 ฤดูกาล 8 นัดติดลงได้ที่รังเหย้าแห่งใหม่ สนามอบจ.สระบุรี โดยเกมนี้ "โจ้ ห้าหลา" ศรายุทธ ชัยคำดี รับบทฮีโร่ทั้งยิงและเปิดให้ทีมเฉือนชัย 2-1 ทะลุผ่านสู่รอบห้า
โอสถสภา เอ็ม-150 2 - ชลบุรี เอฟซี 1
ศึกลูกหนัง "มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2009" รอบ 4 เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา มีดวลแข้งกัน 2 คู่จาก 2 สนาม โดยทีมตกรอบนี้จะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท เกมคู่บิ๊กแมตช์ในศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2009 รอบ 4 ที่สนาม อบจ.สระบุรีซึ่งเป็นรังเหย้าแห่งใหม่ของทีม "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม150 ที่จะใช้สังเวียนแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของพวกเขาต่อไปโดยคู่แข่งที่จับติ้วมาพบกันในรอบนี้คือ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซีรองจ่าฝูงในศึกไทยพรีเมียร์ลีกที่กำลังมีลุ้นแชมป์ถึง 3 รายการในซีซั่นนี้โดยผลงานในรอบที่ผ่านมาของทั้งสองทีมปรากฏว่าโอสถฯที่เล่นในถิ่นเดิมอย่างม.ธนารมย์ เอาชนะ สมาคมกีฬาบางกอกกล๊าส 3-1

ชลบุรี เอฟซี ก็เปิดบ้านอัดสมันน้อยอย่างแม็กนาเมืองพัทยา 4-1 และหากนัดนี้ทีมไหนสามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้ก็จะทำให้มีโอกาสลุ้นแชมป์สูงเลยทีเดียว "ขงเบ้งลูกหนัง" อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กุนซือโอสถฯจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามไม่ว่าจะเป็น 2 ดาวเตะลูกหม้อประจำจ.สระบุรีอย่าง ศิวะเมต ธนูศร และ ปฎิพน เพชรวิเศษลงสนามเพื่อเป็นเหมือนการช่วยเรียกแฟนคลับชาวจ.สระบุรีให้เข้ามาชมเกมในสนามเพิ่มมากยิ่งขึ้นรวมถึงตัวอื่นๆอย่าง ศรายุทธ ชัยคำดี,ไพฑูรย์ เทียบมา และ คัพฟ้า บุญมาตุ่น

ส่วน ชลบุรี เอฟซี ของทางด้านเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่สลับผู้เล่นสำรองลงสนามนัดนี้หลายรายไม่ว่าจะเป็น ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น,ปิยพล บรรเทา,ชวลิต เขียวชอุ่ม ผสมกับตัวหลักอย่าง ชลทิต จันทคาม,เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ ฯลฯท่ามกลางบรรยากาศกองเชียร์ที่แน่นขนัดโดยเฉพาะชาว จ.สระบุรีรวมถึงกลุ่มแฟนคลับขาประจำของทั้งสองทีมที่เข้ามาชมเกมนี้แบบเต็มอัตราความจุของสนามเลยก็ว่าได้

เริ่มเกมในครึ่งแรก น.5 เจ้าถิ่นโอสถสภาฯก็มีโอกาสได้ลุ้นก่อนเลยเมื่อคัพฟ้า บุญมาตุ่น ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษระยะกว่า 30 หลาแต่ก็ยังไปตรงตัวสุจินต์ นาคนายม ที่ยังเซฟลูกนี้เอาไว้ได้ น.11 เป็นโอกาสของทีมเยือนชลบุรี เอฟซี ที่เน้นความแน่นอนในจังหวะเข้าทำธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น โยนลูกฟรีคิกจากด้านขวาบอลลอยมาถึงหัว สุทธินันท์ พุกหอม ที่ได้ขวิดเต็มศรีษะแต่ก็ยังแรงข้ามคานออกไปเกมของทั้งสองทีมดูจะยังไม่กล้าเปิดเกมรุกเข้าใส่กันมากเท่าไหร่นักซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นแพ็คบอลกันในแดนกลางมากกว่า

น.18 อีกครั้งที่พอจะได้เสียวในเกมนี้ของเจ้าถิ่นเมื่อ ศรายุทธ ชัยคำดีศูนย์หน้าโอสถสภาฯลากบอลจากครึ่งสนามก่อนตัดสินใจส่องไกลนอกกรอบอีกครั้งและยังคงได้แค่เกือบไปในจังหวะนี้น.33 เกมรุกของโอสถฯยังดูดีอย่างต่อเนื่องเมื่อ ไพฑูรย์ เทียบมาเปิดลูกเตะมุมด้านขวา บอลโค้งเข้ามายังจุดนัดพบและเป็น ปฏิพน เพชรวิเศษทกองหน้าร่ายยักษ์ที่กระโดดแปรบริเวณหน้ากรอบเขตโทษเสยข้ามคานออกไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

น.38 นานๆ จะโต้กลับได้สวยๆ สำหรับ ชลบุรี เอฟซี คราวนี้เป็น คนึง บุราณสุข ที่โดดพุ่งล้มในกรอบเขตโทษ ชวลิต สนั่นไหวผู้ตัดสินในเกมนี้ไม่รอช้าควักใบเหลืองให้ทันทีเกมในครึ่งแรกทำท่าว่าทั้งคู่จะเสมอกันแต่แล้วในช่วงท้ายครึ่งแรก

น.44 โอสถฯมาได้ประตูที่ต้องการออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ ปทุม ชูทอง แนวรับสาดขึ้นมาจากหลังให้ ปฎิพน เพชรวิเศษ ที่ขึ้นโขกเช็ดต่อมาถึง ศรายุทธ ชัยคำดี ตัดสินใจจักรยานอากาศบอลพุ่งย้อยเสียบเสาสองเข้าไปชนิดที่ สุจินต์ นาคนายม หมดสิทธิ์ป้องกันและทำให้เกมในครึ่งแรกโอสถสภา เอ็ม-150 ออกนำ ชลบุรี เอฟซี ไปได้ก่อน 1-0

ครึ่งหลัง "ซิโก้"จำเป็นต้องส่ง 2 ตัวทีเด็ดอย่าง อาทิตย์ สุนทรพิธและ ไมเคิ่ล เบิร์น ลงสนามเพื่อหวังจะช่วยตามตีเสมอให้ชลบุรีเอฟซีกลับมาสู่เกมให้ได้เร็วที่สุดแต่กลับต้องมาโดนลูกโต้กลับเร็วของเจ้าถิ่นเล่นงานใน น.58 เมื่อศรายุทธ ชัยคำดี ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนหักมาเปิดเข้ากลางด้วยขวามาที่หน้าปากประตู คัพฟ้า บุญมาตุ่น ที่เติมขึ้นมาก้มหัวลงโหม่งบอลที่มาต่ำกว่าศรีษะแสกหน้า สุจนต์ นาคนายม เข้าไปตุงตาข่ายให้แฟนคลับโอสถฯรวมถึงชาว จ.สระบุรี ได้เฮกันลั่นสนามให้เจ้าถิ่นนำห่างเป็น 2-0

เกมการแข่งขันดำเนินมาถึง น.67 ไฟสนามดับลงชนิดที่ว่าไม่สามารถแข่งขันกันต่อได้แถมสนามดังกล่าวฃยังไม่มีไฟสำรองเตรียมเอาไว้ทางฝ่ายจัดจึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าประจำ อบจ.สระบุรี เดินทางมาแก้ไขจนทั้งสองทีมสามารถลงไปแข่งขันต่อได้ซึ่งไฟสนามที่ดับในครั้งนี้ก็กินเวลาไปกว่า 20 นาทีเลยทีเดียวกลับมาเล่นต่อได้เพียงไม่เท่าไหร่ ใน น.71 ชลบุรี เอฟซี สามารถทำประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 การจากครอสบอลที่ริมเส้นฝั่งขวาบอลโค้งหนีกองหลังเจ้าถิ่นมาเข้าหัว ยีนมาร์ค เบนนี่ ที่ขวิดสวนตัว กิตติศักดิ์ ระวังป่า นายด่านเจ้าถิ่นเข้าไปสร้างความหวังให้กับทีมเยือนในการที่จะกลับมาสู่เกมให้ได้อีกครั้ง

น.83 โอกาสทองช่วงท้ายเกมของชลบุรี เอฟซี ที่ควรจะเป็นประตูมากที่สุด เมื่อ ไมเคิ่ล เบิร์น อาศัยลูกถนัดด้วยการบรรจงโยนจากริมเส้นฝั่งขวาบอลลอยโค้งสวยมาที่จุดนัดพบ ยีนมาร์ค เบนนี่ คนเดิมที่ได้โขกเต็มกบาลแต่ยังดีที่ปฎิกิริยาของนายด่านจอมเก๋าของเจ้าถิ่นยังเร็วบินปัดออกหลังไปได้และก็เป็นโอกาสหวาดเสียวครั้งสุดท้ายที่ชลบุรี เอฟซีทำได้จบเกมโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรีก็เฉือนเอาชนะชลบุรี เอฟซี ไปได้อย่างสุดมันส์ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 หรือรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป ซึ่งก็จะทำการจับฉลากกันในวันศุกร์ที่ 25 ก.ย.52 ที่สมาคมฟุตบอลฯ ต่อไป

วาทะโค้ช "โค้ชโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (ชลบุรี เอฟซี) -เกมนี้ลูกทีมได้ดีที่สุดแล้วซึ่งผมเองก็จำเป็นต้องสลับผู้เล่นสำรองบางรายลงสนามเพราะเรามีโปรแกรมที่ค่อนข้างจะชุกในช่วงที่เหลือทั้งในเกมลีกและถ้วยเอเชียรวมถึงคู่แข่งในเกมนี้อย่างโอสถฯเล่นกันได้ดีจริงๆผมก็ขออวยพรให้โอสถฯประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์รายการนี้ก็แล้วกันครับ

"ขงเบ้งลูกหนัง" อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ (โอสถสภา เอ็ม150) -อย่างแรกคงต้องบอกเลยว่าบรรยากาศที่จ.สระบุรีนี้สุดยอดจริงๆและผมก็เชื่อด้วยว่าคงเป็นส่วนสำคัญที่คอยช่วยกระตุ้นลูกทีมให้สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้และแน่นอนว่าพวกเรามาถึงขนาดนี้แล้วคงต้องแอบหวังถึงแชมป์กันบ้างได้แล้ว

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ :ศรายุทธ ชัยคำดี

แรบบิทซัลโว6เม็ดอัดส.กรุงเก่าฉลุยเอฟเอ


"เดอะ กล๊าส แรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี สุดเจ๋งบุกรังสมาคมกีฬากรุงเก่า ทีมระดับถ้วย ข ก่อนปูพรมไล่ถล่มแหลก 6-0 ตบเท้าเข้าเล่นรอบห้าอีกทีม โดยจะมีการจับสลากประกบคู่ ในวันศุกร์ที่ 25 ก.ย. นี้ ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ

สมาคมกีฬากรุงเก่า 0 - บางกอกกล๊าส 6

การแข่งขันฟุตบอลมูลนิธิไทยคมเอฟ เอ คัพ รอบ 4 ที่สนามกีฬากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าบ้าน "จอมเซอร์ไพส์" สมาคมกีฬากรุงเก่า ตัวแทนจากถ้วย ข ที่ผ่านรอบสามมาด้วยการบุกไปชนะ รัตนบัณฑิต ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 หลังเสมอในเวลาปกติ 1-1 เปิดสนามพบกับ "แรบบิท" บางกอกกล๊าส ทีมจาก ไทยลีก ที่ชนะ เมืองทองฯ ทีมจากไทยลีกด้วยกัน 1-0 ในรอบสาม


เกมนี้เจ้าถิ่นไม่มี เลิศชาย อิสราสุวิภากร ดาวเตะตัวเก่งที่ติดภารกิจกับทีมฟุตซอลชาติไทย แต่ยังมี โจ้ เนื่องเกิด, อนันต์ ปานทอง, พงษ์ศักดิ์ คงแก้ว เป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง ขณะที่ "แรบบิท"ส่งตัวจริงและสำรองสลับกันลงสนามหลายคน นำโดย อนาวิน จูจีน, รุ่งโรจน์ สว่างศรี, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์,โคเน่ คาสซิม, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ท่ามกลางแฟนบอลของทั้งสองทีมที่แห่เข้ามาชมกันอย่างหนาตา โดยเกมนี้ สุวรรณลภ ภูวบัณฑิตสิน นายกสมาคมกีฬากรุงเก่า อัดฉีดให้นักเตะ กรุงเก่า ก่อนแข่งเป็นขวัญถุง 30,000 บาท


เปิดฉากมาแค่ 2 นาที เจ้าถิ่นมีลุ้นได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว เมื่อสองนักเตะจอมเก๋าอย่าง พงษ์ศักดิ์ คงแก้ว จ่ายทะลุช่องให้ อนันต์ ปานทอง หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษด้านซ้ายคนเดียวโล่งๆ แต่กลับซัดเข้าข้างตาข่ายไปอย่างน่าเสียดาย ชวดได้ประตูขึ้นนำสุดๆ


หลังจากนั้นเป็น ส.กรุงเก่า ที่ดูคึกคักกว่า เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกใส่ บางกอกกล๊าสฯ แบบไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีเครื่องหมายไทยลีก แต่ น.10 ก็เกือบโดนทีมเยือนเล่นงานเหมือนกัน เมื่อ ศุภชัย คมศิลป์ เปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งขวาโค้งเข้าหาประตู และเป็น โคเน่ คาสซิม ที่ได้โขกเหน่งๆ ระยะแค่ 5 หลากลางประตู ทว่ากลับโหม่งออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ


น.18 เจ้าถิ่นดูหมดแรงไปซะดื้อๆ ทำให้ อนาวิน จูจีน ปีกตัวจี๊ดของ “แรบบิท” ที่จังหวะนี้โยกตัวเองไปอยู่ทางด้านซ้าย ก่อนพาบอลตัดเข้ามาตรงกลางแล้วทำชิ่งกับ โคเน่ คาสซิม จังหวะเดียว ก่อนจะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย และ อนาวิน จัดการซัดด้วยอีซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งแสกหน้า บัญชา นุนารถ นายทวารเจ้าถิ่นตาข่ายแทบขาด ให้ บางกอกกล๊าสฯ นำ ส.กรุงเก่า 1-0 ท่ามกลางเสียงเฮจากแฟนบอลทีมเยือนที่ขนมากันเต็มคันรถ


หลังจากนั้น ส.กรุงเก่า ยังคงเล่นเกมบุกต่อไป และ น.31 ก็มาได้ลุ้นจากฟรีคิกของ อนันต์ ปานทอง บนเส้นกรอบเชตโทษกลางประตูพอดี แต่ดาวเตะจอมเก๋ารายนี้กลับปั่นไซส์โป้งด้วยเท้าขวาข้ามคานออกไปนิดเดียว เจ้าถิ่นยังคงคุมเกมได้ดีกว่า แม้จะเป็นฝ่ายโดนนำอยู่ก็ตาม แต่ทีมเยือนก็อาศัยการโต้กลับที่เฉียบคมและการชิ่งบอลจังหวะเดียวตามสไตล์ลุ้นประตูที่สอง แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดความแน่นอน


ก่อนหมดเวลา 2 นาที บางกอกล๊าสฯ ก็มาได้ประตูนำห่าง เมื่อ ศุภชัย คมศิลป์ ได้โอกาสยิงฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวาด้วยเท้าซ้าย บอลโค้งเข้าเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูไปอย่างสวยงาม หมดปัญญาที่ บัญชา นุนารถ นายทวาร ส.กรุงเก่า จะพุ่งเซฟไว้ทัน ให้"แรบบิท"นำ 2-0 และหมดครึ่งแรกที่สกอร์นี้


ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น และเริ่มมา 5 นาที เหมือนหนังคนละม้วน เมื่อ บางกอกกล๊าสฯ เป็นฝ่ายดาหน้าบุกชนิดไม่ให้เจ้าถิ่นตั้งตัว และมีโอกาสลุ้นทำประตูหลายครั้ง แต่ก็ยังขาดๆ เกินๆ
ก่อนที่ น.56 ทีมเยือนจะมาได้ประตูนำโด่ง เมื่อคู่เซ็นเตอร์ของ ส.กรุงเก่า ยืนห่างกันเกินไป นันทวัฒน์ แทนโสภา เลยลงโทษด้วยการจ่ายทะลุช่องกลางให้ โคเน่ คาสซิม จับบอลก่อนจะซัดด้วยเท้าขวาแค่ 8 หลา บอลสวนตัว บัญชา นุนารถ เข้าประตูไปง่ายๆ ให้ บางกอกกล๊าสฯ นำห่าง 3-0


หลังจากนั้นทีมเยือนเริ่มทยอยเปลี่ยนตัวสำรองลงสนามเพื่อสัมผัสบรรยากาศ ทำให้เกมรุกดูเพลาๆ ลงไป เปิดโอกาสให้ ส.กรุงเก่า ได้สร้างสรรค์เกมบุกขึ้นมาลุ้นประตูบ้างและ น.70 กองเชียร์เจ้าถิ่นเกือบได้เฮบ้าง เมื่อ อนันต์ ปานทอง กัปตันจอมเก๋า ได้โอกาสตั้งป้อมซัดเต็มข้อประมาณ 25 หลา บอลพุ่งอย่างแรงก่อนไปชนเสาอย่างจัง พลาดโอกาสตีไข่แตกไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถัดมาอีกเพียง 3 นาที บางกอกกล๊าสฯ มาได้ประตูนำห่าง 4-0 เมื่อ วรรณพล ปุษปาคม ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงไป ตั้งป้อมซัดไกลประมาณ 25 หลากลางประตู บอลพุ่งตกพื้นหนึ่งจังหวะก่อนเข้าประตูไปอย่างสมบูรณ์แบบ


ก่อนที่ น.75 สถานการณ์ของเจ้าถิ่นย่ำแย่หนักเข้าไปอีก เมื่อ วัชรพงษ์ วิเชียรสาร แบ็กขวาตัวสำรองที่เปลี่ยนลงไป พุ่งเสียบ นันทวัฒน์ แทนโสภา ขณะที่กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษด้านซ้าย ทำให้ สุระ ศรีอาจ ผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในเกมนี้ไม่มีทางเลือกที่จะเป่าให้จุดโทษแก่ทีมเยือน และแจกใบแดงไล่ วัชรพงษ์ ออกจากสนามไป ก่อนที่ นันทวัฒน์ จะลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารลูกนี้เข้าซ้ายมือ บัญชา นุนารถ เข้าประตูไป ให้ บางกอกกล๊าสฯ นำห่าง 5-0


จากนั้นเจ้าถิ่นดูเสียกำลังใจ และ น.83 นันทวัฒน์ แทนโสภา กระชากบอลทะลุแหวกคู่เซ็นเตอร์ของ ส.กรุงเก่า ก่อนจะหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษถึงสามคน ก่อนจะจ่ายออกทางขวาไปให้ พลวัฒน์ วังฆะฮาด แบ็กขวาตัวเก่งที่เติมขึ้นมา จับบอลหนึ่งจังหวะและซัดเต็มข้อไม่เหลือซาก ให้ “แรบบิท” นำครึ่งโหล 6-0


ท้ายเกมพระพิรุณธ์เริ่มโปรยปรายลงมา ทำให้แข้ง บีจี ดูจะเน้นความชัวร์เป็นหลัก ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดยาวหมดเวลา ส.กรุงเก่า เปิดบ้านพ่ายให้กับ บางกอกกล๊าสฯ เละเทะ 0-6 ส่งผลให้ "แรบบิท" ผ่านเข้าสู่รอบที่ 5 ต่อไป ส่วน ส.กรุงเก่า เกมนี้ถือว่าชนะใจแฟนบอลเต็มๆ


คะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม


สมาคมกีฬากรุงเก่า : บัญชา นุนารถ 4.5, รัฐวุฒิ สุพัฒน์ธนกูล 5, วิเลศ เกลี้ยงแก้ว 5 (ปิยะพันธ์ วรรณนิยม -), สมชาย กลิ่นบัว 5, สุวิทย์ แจ้งธรรมมา 5 (วัชรพงษ์ วิเชียรสาร 4), ศักดา น้อยเมืองเปลือย 5 (วรชัย นาสูงเนิน -),สุรศักดิ์ อาจเอี่ยม 5, โจ้ เนื่องเกิด 5, พงษ์ศักดิ์ คงแก้ว 5.5, เชาวลิต นิลกรณ์ 5, อนันต์ ปานทอง 5


บางกอกล๊าสฯ : นราธิป พันธ์พร้อม 6, พลวัฒน์ วังฆะฮาด 7, ศุภชัย คมศิลป์ 7, ไกรเกียรติ เบียดตะคุ 6.5, รุ่งโรจน์ สว่างศรี 6.5, อนนท์ บุญสุโข 6 (วชิระ แสงศรี 6), โคเน่ คาสซิม 7 (มิเชล 6), อนาวิน จูจีน 7, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ 5.5 (วรรณพล ปุษปาคม 6), พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ 6, นันทวัฒน์ แทนโสภา 8


หลังเกม พ.ต.ท.ดร.วีระพล วงษ์สาตรสาย : วันนี้เด็กเราไม่ได้เป็นรองเลย ซึ่งมีโอกาสจะยิงขึ้นนำไปก่อนด้วย แต่ด้วยความที่เราไม่ได้รวมทีมกันเลย ทำให้ขาดความเฉียบคมไป ซึ่งการขาด เลิศชาย ถือว่ามีผลในเกมรุกของเรามาก แต่ยอมรับว่าวันนี้ บางกอกกลาสฯ เป็นทีมที่ดีกว่าจริงๆ ด้าน สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ : แรกๆ มันดูขัดไปนิดนึง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ทีมใหญ่เจอทีมเล็ก คือดูเหมือนจะง่ายแต่เราทำให้มันยากไปเอง ซึ่งรอบต่อไปอยากจะขอเจอทีมใหญ่ไปเลย


สำหรับการแข่งขันฟุตบอล”มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2009” รอบห้า หรือรอบ 8 ทีม จะมีการจับสลากประกบคู่ในวันศุกร์ ที่ 25 ก.ย.นี้ ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอล ฯ เวลา 14.00 น.

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552

แฟนเฮ!! ปธ.พรีเมียร์ลีก ยันส่งทีมชาติอังกฤษลับแข้งไทย


แฟนบอลไทยเฮ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ย้ำชัดๆ เซอร์ เดวิด ริชาร์ดส์ ประธานพรีเมียร์ลีก ยืนยันเองทีมชาติอังกฤษ ยกพลบุกดวลแข้งทีมชาติไทยแน่ รอแค่จับสลากบอลโลกเสร็จสิ้น เดินทางมาเตะกับไทยไม่ปลายปีนี้ก็ต้นปีหน้า พร้อมวางแผนให้ ปีเตอร์ รีด หาทีมพรีเมียร์ลีก ให้ไทยอุ่นแข้ง หาช่องยกพลมาเก็บตัวแดนผู้ดีหลังจบไทยลีกด้วย จากการเปิดเผยของ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ยังอยู่ประเทศอังกฤษ และมีโอกาสได้พูดคุยกับ เซอร์ เดวิด ริชาร์ดส์ ประธานพรีเมียร์ลีก เกี่ยวกับการเดินทางมาเมืองไทย ของทีมฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ

โดยนายกลูกหนังไทยได้กล่าวว่า ล่าสุด ตนได้คุยกับ เซอร์ เดวิด อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทางประธานพรีเมียร์ลีก ก็ยืนยันว่า ทีมชาติอังกฤษจะเดินทางมาเมืองไทยแน่นอน เวลานี้รอเพียงการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลกให้เสร็จสิ้นก่อนเท่านั้น ซึ่งจะมีขึ้นในปลายปีนี้ หากจับสลากเสร็จสิ้นแล้ว จะสามารถกำหนดได้ว่าจะเดินทางมาเตะกับทีมชาติไทยวันไหน ซึ่งหากไม่เป็นปลายปีนี้ ก็ต้นปีหน้า

นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังกล่าวถึงการเตรียมทีมชาติไทยอีกว่า ตนเห็นว่า ปีเตอร์ รีด มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสโมสรในพรีเมียร์ลีกหลายทีม ก็กำลังดูว่าจะให้ ปีเตอร์ รีด ลองติดต่อสโมสรต่างๆ เพื่อส่งทีมชาติไทยมาเก็บตัวและอุ่นเครื่องในปลายปี้นี้ เพียงแต่ต้องดูว่าโปรแกรมช่วงไหนที่จะว่าง และมีประโยชน์กับทีมชาติไทยมากที่สุดก็จะเลือกช่วงนั้น

สำหรับ ปีเตอร์ รีด ที่ยังคงอยู่ช่วยทำทีมที่ สโต๊ค ซิตี้ ในเวลานี้ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ เผยว่าจะกลับมาในอาทิตย์หน้าแน่นอน โดยจะเร่งมาดูฟอร์มนักเตะในไทยลีกช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนที่จะประกาศตัวทีมชาติเพื่อสู้ศึกเอเชียน คัพ รอบคัดเลือกกับสิงคโปร์ และชุดซีเกมส์พร้อมกันด้วย

เครดิต
: siamsport