"พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม-150 เกือบงานเข้าหลังไฟฟ้าในสนามดับ 27 นาทีก่อนกลับมาเตะกันใหม่พร้อมกับหยุดสถิติที่ไม่เคยเอาชนะ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี มาได้ 4 ฤดูกาล 8 นัดติดลงได้ที่รังเหย้าแห่งใหม่ สนามอบจ.สระบุรี โดยเกมนี้ "โจ้ ห้าหลา" ศรายุทธ ชัยคำดี รับบทฮีโร่ทั้งยิงและเปิดให้ทีมเฉือนชัย 2-1 ทะลุผ่านสู่รอบห้า โอสถสภา เอ็ม-150 2 - ชลบุรี เอฟซี 1 ศึกลูกหนัง "มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2009" รอบ 4 เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา มีดวลแข้งกัน 2 คู่จาก 2 สนาม โดยทีมตกรอบนี้จะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท เกมคู่บิ๊กแมตช์ในศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2009 รอบ 4 ที่สนาม อบจ.สระบุรีซึ่งเป็นรังเหย้าแห่งใหม่ของทีม "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม150 ที่จะใช้สังเวียนแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของพวกเขาต่อไปโดยคู่แข่งที่จับติ้วมาพบกันในรอบนี้คือ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซีรองจ่าฝูงในศึกไทยพรีเมียร์ลีกที่กำลังมีลุ้นแชมป์ถึง 3 รายการในซีซั่นนี้โดยผลงานในรอบที่ผ่านมาของทั้งสองทีมปรากฏว่าโอสถฯที่เล่นในถิ่นเดิมอย่างม.ธนารมย์ เอาชนะ สมาคมกีฬาบางกอกกล๊าส 3-1 ชลบุรี เอฟซี ก็เปิดบ้านอัดสมันน้อยอย่างแม็กนาเมืองพัทยา 4-1 และหากนัดนี้ทีมไหนสามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้ก็จะทำให้มีโอกาสลุ้นแชมป์สูงเลยทีเดียว "ขงเบ้งลูกหนัง" อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กุนซือโอสถฯจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามไม่ว่าจะเป็น 2 ดาวเตะลูกหม้อประจำจ.สระบุรีอย่าง ศิวะเมต ธนูศร และ ปฎิพน เพชรวิเศษลงสนามเพื่อเป็นเหมือนการช่วยเรียกแฟนคลับชาวจ.สระบุรีให้เข้ามาชมเกมในสนามเพิ่มมากยิ่งขึ้นรวมถึงตัวอื่นๆอย่าง ศรายุทธ ชัยคำดี,ไพฑูรย์ เทียบมา และ คัพฟ้า บุญมาตุ่น ส่วน ชลบุรี เอฟซี ของทางด้านเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่สลับผู้เล่นสำรองลงสนามนัดนี้หลายรายไม่ว่าจะเป็น ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น,ปิยพล บรรเทา,ชวลิต เขียวชอุ่ม ผสมกับตัวหลักอย่าง ชลทิต จันทคาม,เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ ฯลฯท่ามกลางบรรยากาศกองเชียร์ที่แน่นขนัดโดยเฉพาะชาว จ.สระบุรีรวมถึงกลุ่มแฟนคลับขาประจำของทั้งสองทีมที่เข้ามาชมเกมนี้แบบเต็มอัตราความจุของสนามเลยก็ว่าได้ เริ่มเกมในครึ่งแรก น.5 เจ้าถิ่นโอสถสภาฯก็มีโอกาสได้ลุ้นก่อนเลยเมื่อคัพฟ้า บุญมาตุ่น ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษระยะกว่า 30 หลาแต่ก็ยังไปตรงตัวสุจินต์ นาคนายม ที่ยังเซฟลูกนี้เอาไว้ได้ น.11 เป็นโอกาสของทีมเยือนชลบุรี เอฟซี ที่เน้นความแน่นอนในจังหวะเข้าทำธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น โยนลูกฟรีคิกจากด้านขวาบอลลอยมาถึงหัว สุทธินันท์ พุกหอม ที่ได้ขวิดเต็มศรีษะแต่ก็ยังแรงข้ามคานออกไปเกมของทั้งสองทีมดูจะยังไม่กล้าเปิดเกมรุกเข้าใส่กันมากเท่าไหร่นักซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นแพ็คบอลกันในแดนกลางมากกว่า น.18 อีกครั้งที่พอจะได้เสียวในเกมนี้ของเจ้าถิ่นเมื่อ ศรายุทธ ชัยคำดีศูนย์หน้าโอสถสภาฯลากบอลจากครึ่งสนามก่อนตัดสินใจส่องไกลนอกกรอบอีกครั้งและยังคงได้แค่เกือบไปในจังหวะนี้น.33 เกมรุกของโอสถฯยังดูดีอย่างต่อเนื่องเมื่อ ไพฑูรย์ เทียบมาเปิดลูกเตะมุมด้านขวา บอลโค้งเข้ามายังจุดนัดพบและเป็น ปฏิพน เพชรวิเศษทกองหน้าร่ายยักษ์ที่กระโดดแปรบริเวณหน้ากรอบเขตโทษเสยข้ามคานออกไปแค่นิดเดียวเท่านั้น น.38 นานๆ จะโต้กลับได้สวยๆ สำหรับ ชลบุรี เอฟซี คราวนี้เป็น คนึง บุราณสุข ที่โดดพุ่งล้มในกรอบเขตโทษ ชวลิต สนั่นไหวผู้ตัดสินในเกมนี้ไม่รอช้าควักใบเหลืองให้ทันทีเกมในครึ่งแรกทำท่าว่าทั้งคู่จะเสมอกันแต่แล้วในช่วงท้ายครึ่งแรก น.44 โอสถฯมาได้ประตูที่ต้องการออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ ปทุม ชูทอง แนวรับสาดขึ้นมาจากหลังให้ ปฎิพน เพชรวิเศษ ที่ขึ้นโขกเช็ดต่อมาถึง ศรายุทธ ชัยคำดี ตัดสินใจจักรยานอากาศบอลพุ่งย้อยเสียบเสาสองเข้าไปชนิดที่ สุจินต์ นาคนายม หมดสิทธิ์ป้องกันและทำให้เกมในครึ่งแรกโอสถสภา เอ็ม-150 ออกนำ ชลบุรี เอฟซี ไปได้ก่อน 1-0 ครึ่งหลัง "ซิโก้"จำเป็นต้องส่ง 2 ตัวทีเด็ดอย่าง อาทิตย์ สุนทรพิธและ ไมเคิ่ล เบิร์น ลงสนามเพื่อหวังจะช่วยตามตีเสมอให้ชลบุรีเอฟซีกลับมาสู่เกมให้ได้เร็วที่สุดแต่กลับต้องมาโดนลูกโต้กลับเร็วของเจ้าถิ่นเล่นงานใน น.58 เมื่อศรายุทธ ชัยคำดี ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนหักมาเปิดเข้ากลางด้วยขวามาที่หน้าปากประตู คัพฟ้า บุญมาตุ่น ที่เติมขึ้นมาก้มหัวลงโหม่งบอลที่มาต่ำกว่าศรีษะแสกหน้า สุจนต์ นาคนายม เข้าไปตุงตาข่ายให้แฟนคลับโอสถฯรวมถึงชาว จ.สระบุรี ได้เฮกันลั่นสนามให้เจ้าถิ่นนำห่างเป็น 2-0 เกมการแข่งขันดำเนินมาถึง น.67 ไฟสนามดับลงชนิดที่ว่าไม่สามารถแข่งขันกันต่อได้แถมสนามดังกล่าวฃยังไม่มีไฟสำรองเตรียมเอาไว้ทางฝ่ายจัดจึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าประจำ อบจ.สระบุรี เดินทางมาแก้ไขจนทั้งสองทีมสามารถลงไปแข่งขันต่อได้ซึ่งไฟสนามที่ดับในครั้งนี้ก็กินเวลาไปกว่า 20 นาทีเลยทีเดียวกลับมาเล่นต่อได้เพียงไม่เท่าไหร่ ใน น.71 ชลบุรี เอฟซี สามารถทำประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 การจากครอสบอลที่ริมเส้นฝั่งขวาบอลโค้งหนีกองหลังเจ้าถิ่นมาเข้าหัว ยีนมาร์ค เบนนี่ ที่ขวิดสวนตัว กิตติศักดิ์ ระวังป่า นายด่านเจ้าถิ่นเข้าไปสร้างความหวังให้กับทีมเยือนในการที่จะกลับมาสู่เกมให้ได้อีกครั้ง น.83 โอกาสทองช่วงท้ายเกมของชลบุรี เอฟซี ที่ควรจะเป็นประตูมากที่สุด เมื่อ ไมเคิ่ล เบิร์น อาศัยลูกถนัดด้วยการบรรจงโยนจากริมเส้นฝั่งขวาบอลลอยโค้งสวยมาที่จุดนัดพบ ยีนมาร์ค เบนนี่ คนเดิมที่ได้โขกเต็มกบาลแต่ยังดีที่ปฎิกิริยาของนายด่านจอมเก๋าของเจ้าถิ่นยังเร็วบินปัดออกหลังไปได้และก็เป็นโอกาสหวาดเสียวครั้งสุดท้ายที่ชลบุรี เอฟซีทำได้จบเกมโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรีก็เฉือนเอาชนะชลบุรี เอฟซี ไปได้อย่างสุดมันส์ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 หรือรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป ซึ่งก็จะทำการจับฉลากกันในวันศุกร์ที่ 25 ก.ย.52 ที่สมาคมฟุตบอลฯ ต่อไป วาทะโค้ช "โค้ชโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (ชลบุรี เอฟซี) -เกมนี้ลูกทีมได้ดีที่สุดแล้วซึ่งผมเองก็จำเป็นต้องสลับผู้เล่นสำรองบางรายลงสนามเพราะเรามีโปรแกรมที่ค่อนข้างจะชุกในช่วงที่เหลือทั้งในเกมลีกและถ้วยเอเชียรวมถึงคู่แข่งในเกมนี้อย่างโอสถฯเล่นกันได้ดีจริงๆผมก็ขออวยพรให้โอสถฯประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์รายการนี้ก็แล้วกันครับ "ขงเบ้งลูกหนัง" อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ (โอสถสภา เอ็ม150) -อย่างแรกคงต้องบอกเลยว่าบรรยากาศที่จ.สระบุรีนี้สุดยอดจริงๆและผมก็เชื่อด้วยว่าคงเป็นส่วนสำคัญที่คอยช่วยกระตุ้นลูกทีมให้สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้และแน่นอนว่าพวกเรามาถึงขนาดนี้แล้วคงต้องแอบหวังถึงแชมป์กันบ้างได้แล้ว แมน ออฟ เดอะ แมตช์ :ศรายุทธ ชัยคำดี |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น